วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ "ออฟฟิศแห่งโลกอนาคต"





 ปัจจุบันข้อมูลทางธุรกิจนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลมาจากพัฒนาการด้านเศรษฐกิจที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่สูงขึ้นทั้งจากทางภาครัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไป ซึ่งอาจมีโอกาสที่จะขยายตัวไปยังอุปกรณ์ไอทีนับ 8.6 พันล้านเครื่องในเอเชียแปซิฟิคภายในปี 2019 
เพื่อเป็นการแก้ปัญหาและระมัดระวังภัยดังกล่าว HP บริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีจึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์โน๊ตบุ๊คซีรีย์ Elite ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยในประเด็นที่ถูกมองข้าม

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ "ออฟฟิศแห่งโลกอนาคต"
ซีรีย์ Elite ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น WorkWiseแอพฯ ที่จะล็อคการใช้งานโน๊ตบุ๊คของเรา หากโทรศัพท์ที่ได้เชื่อมเข้ากับแอพฯ ดังกล่าว อยู่ห่างจากตัวเครื่องตามระยะทางที่เรากำหนด และ HP Sure View ที่เมื่อเปิดโหมดดังกล่าวแล้วนั้น หน้าจอก็จะทำการลดแสงที่มองเห็นได้ถึง 95% โดยทันที ซึ่งผู้ที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องของเรา ก็จะมองไม่เห็นข้อมูลบนหน้าจอ เรียกได้ว่าเป็นแอพที่ดูน่าสนใจและน่าจะป้องกันข้อมูลของเราได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ใช้ได้อุ่นใจแล้วนั้น หนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจที่สุดตัวหนึ่งของซีรีย์ดังกล่าวคงจะหนีไม่พ้น EliteBook x360 โน๊ตบุ๊คที่มีรูปลักษณ์ภายนอกบางเบา แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น ดังนี้
  • สามารถบิดดัดตัวเครื่องได้ 360 องศา, ความทนทานของตัวเครื่องที่ได้ผ่านการทดสอบความน่าเชื่อถือจาก 12 มาตรฐานกองทัพสหรัฐ
  • แบตเตอรี่ที่ทำให้ใช้งานตัวเครื่องได้นานถึง 16.5 ชั่วโมง
  • รองรับปากกา Wacom, ทนทาน Mil 12-STD,ลำโพง B&O, High Security, Fast Charge
ซึ่งนอกจากรุ่นที่กล่าวมาแล้วนั้น ภายในงานยังได้นำเสนออุปกรณ์และคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่มีดีไซน์และประสิทธิภาพที่พร้อมจะเป็น "ออฟฟิศแห่งโลกอนาคต" ตามที่พวกเขาต้องการ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ

ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ


ปกป้องข้อมูลทางธุรกิจด้วย HP EliteBook ซีรีย์โน๊ตบุ๊ค สำหรับ  

ที่มา : https://news.thaiware.com/9993.html




Microsoft เปิดตัว Surface Laptop โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ เจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน



 หลังจากไม่ปล่อยอุปกรณ์รุ่นใหม่ออกมานาน ล่าสุดทางไมโครซอฟต์ก็ได้เปิดตัว Surface laptop รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดยเป็นรุ่นที่ออกมาเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่นักศึกษาโดยเฉพาะSurface laptop รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับกันหน้าจอ PixelSense ขนาด 13.5 นิ้ว ความละเอียด 1080p อัตราส่วนหน้าจอแบบ 3:2 ตัวเครื่องมีความบางยิ่งกว่า MacBook Air ด้วยความบางเพียง 9.9 มม. - 14.47 มม. เท่านั้น ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม
Microsoft ประกาศว่าหน้าจอของ Surface laptop รุ่นใหม่นี้ เป็นหน้าจอแบบสัมผัสที่บางที่สุดที่โน๊ตบุ๊คเคยมีมา นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับการทำงานร่วมกับ Surface Pen ด้วย แต่สำหรับปากกานี่ต้องซื้อแยกนะครับ ไม่มีมาในกล่อง

Microsoft เปิดตัว Surface Laptop โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ เจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน

Microsoft เปิดตัว Surface Laptop โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ เจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน

Microsoft เปิดตัว Surface Laptop โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ เจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน

Microsoft เปิดตัว Surface Laptop โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ เจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน

ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ประกอบไปด้วย Burgundy, Platinum, Cobalt Blue และ Graphite Gold สเปคสามารถเลือกได้ตั้งแต่ Intel 7th generation Core i5 ถึง i7 แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 14.5 ชั่วโมง
คีย์บอร์ดทำจาก Fabric-Alcantara วัสดุเดียวกับที่ใช้ในคีย์บอร์ดของ Surface Pro 4 มีไฟ Backlit ในตัว พอร์ตการเชื่อมต่อที่ให้มามี USB 3.0, miniDisplayPort, ช่องเสียบหูฟัง และ Surface Connect
ราคาเริ่มต้นที่ $999 (ประมาณ 34,420 บาท) ในรุ่น Intel Core i5, Intel HD Graphics 620, 128GB SSD, แรม 4GB ไปจนถึง $2,199 (ประมาณ 75,770 บาท) สำหรับรุ่น Intel Core i7,Intel Iris Plus Graphics 640, 512GB SSD, แรม 16GB ตอนนี้เปิดให้สั่งจองแล้วผ่านทางหน้าเว็บของ Microsoft

ที่มา : https://news.thaiware.com/10259.html


ตำนานค่าตัวแรง! Apple-1 คอมพิวเตอร์รุ่นแรกแบรนด์แอปเปิ้ล ถูกขายในราคา 12 ล้านบาท

ตำนานค่าตัวแรง! Apple-1 คอมพิวเตอร์รุ่นแรกแบรนด์แอปเปิ้ล ถูกขายในราคา 12 ล้านบาท

ล่าสุด Christie's New York ได้จัดการประมูลเครื่องคอมพิวเตอร์ "Apple-1" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Apple ถูกขายออกไปในราคาที่สูงถึง 355,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 12 ล้านบาท

ตำนานค่าตัวแรง! Apple-1 คอมพิวเตอร์รุ่นแรกแบรนด์แอปเปิ้ล ถูกขายในราคา 12 ล้านบาท


Apple ได้ผลิตและวางจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่น "Apple-1" ในปี 1976 จำนวน 200 เครื่อง โดย Steve Wozniak และอีกหนึ่งคนที่เรารู้จักกันดี Steve Jobs สองผู้ร่วมก่อตั้ง ในปีถัดมา Apple ปล่อยรุ่น Apple-2 ลงสู่ตลาด และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีและสร้างชื่อให้กับ Apple เป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่า Apple-1 ล่าสุดจะถูกขายจากการประมูลไปในราคา 355,000 เหรียญ เมื่อเทียบกับตอนเปิดตัวเพียง 666.66 เหรียญ ราคาได้พุ่งสูงขึ้นถึง 500 เท่า เพราะปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 50 เครื่องทั่วโลก แต่เชื่อไหมว่านี่เป็นราคาค่าตัวที่ถูกที่สุดจากในอดีตที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้ Apple-1 เคยถูกขายไปในราคา 671,400 เหรียญในปี 2013 และ 905,000 เหรียญในปี 2009 เรียกได้ว่าถ้าใครยังมีเก็บอยู่อาจกลายเป็นเศรษฐีได้เลย

ที่มา : https://news.thaiware.com/10617.html

Intel เผยรายละเอียดของซีพียู Intel® Core เจนเนอเรชั่น 9 โค๊ดเนม Ice Lake





 แม้ว่า intel จะยังไม่ได้วางจำหน่ายซีพียูที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 10 นาโนเมตร ก็ตาม แต่ดูเหมือนทาง Intel ต้องการจะยั่วน้ำลายผู้บริโภคก่อนล่วงหน้า ว่าแผนการพัฒนาของซีพียูเจนเนอเรชั่น 9 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในวันที่ 21 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ คาดการณ์กันว่าทาง Intel จะเปิดตัวซีพียู เจนเนอเรชั่นที่ 8 Coffee Lake ที่จะมาแทนที่ ซีพียู เจนเนอเรชั่นที่ 7 Kaby Lake ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดตัว ทาง Intel ก็ได้อัพเดทรายชื่อของซีพียูรุ่นใหม่บนหน้าเว็บ Platform Code Name แล้ว ในชื่อ Ice Lake 
Intel เผยรายละเอียดของซีพียู Intel® Core เจนเนอเรชั่น 9 โค๊ดเนม Ice Lake
รายละเอียดเบื้องต้นระบุเอาไว้ว่าชิปประมวลผล Ice Lake จะเป็นรุ่นสืบทอดจาก Coffee Lake ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 10 นาโนเมตร

Intel เผยรายละเอียดของซีพียู Intel® Core เจนเนอเรชั่น 9 โค๊ดเนม Ice Lake

ที่น่าแปลกใจ คือ ในงาน CES 2017 ที่ผ่านมา ทาง Intel ได้มีการสาธิตชิปประมวลผล Cannon Lake ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับ 10 นาโนเมตร มาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้มี Ice Lake เพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า Cannon Lake น่าจะเป็นสมาชิกของซีพียู เจนเนอเรชั่น 8 ที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์แบบพกพามากกว่า ส่วน Ice Lake ก็จะเป็น ซีพียู เจนเนอเรชั่น 9 สำหรับ Desktop 

ที่มา : https://news.thaiware.com/11080.html















วิธีแก้ปัญหาคอมฯ ช้าแบบง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง





วิธีแก้ปัญหาคอมฯ ช้าแบบง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง
 หลายคนคงเคยประสบปัญหาการเปิดคอมพิวเตอร์แล้วกว่าจะพร้อมใช้งานได้ ขนาดเดินไปเข้าห้องน้ำก็แล้ว ชงกาแฟก็แล้ว วินโดว์ยังหมุนติ้วๆ อยู่เลย ซึ่งโดยมากแล้ว ถ้า PC อืดลงอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุมักจะไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ แต่มักเป็นปัญหาของซอฟต์แวร์ต่างหากที่กำลังบั่นทอนศักยภาพของเครื่องและทำให้คุณเสียเวลา

 หากคุณกำลังประสบปัญหาคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง ใช้แล้วรู้สึกอืดๆ กว่าแรกๆ วันนี้ทีวีไดเร็กขอเสนอ ไม่ใช่! เข้าเรื่องกันดีกว่าเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนที่ใช้ PC น่าจะต้องเจอกับปัญหานี้อย่างแน่นอน วันนี้ไทยแวร์นำบทความเกี่ยวกับการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ของเราให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ  
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ PC อืด?
โปรแกรมทั้งหลายที่อยู่ในเครื่องยังไงล่ะ! 
นึกภาพ PC เป็นรถยนต์ยิ่งผู้โดยสารมาก รถก็ยิ่งหนัก และวิ่งได้ช้าลง แถมใช้กำลังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนออกตัวหรือขับขึ้นเขา สำหรับโลกดิจิตอลแล้วพวกโปรแกรมอย่าง Offices, iTunes หรือ Adobe Reader คือน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นมา
driver เก่า
driver เป็นตัวควบคุม hardware ต่างๆ เช่น mainboard, wireless และ graphics card ถ้า driver มันเก่ามากหรือขาดหายไป ความเร็วของส่วนนั้นอาจจะเหลือเพียงครึ่งเดียว เรียกง่ายๆ ว่าทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ 
ข้อมูล disk กระจัดกระจาย
หลายคนเก็บข้อมูลแบบไม่เป็นที่เป็นทาง ไว้โน่นบ้างไว้นี่บ้าง ทำให้อุปกรณ์ hard disk ที่เป็นตัวเก็บข้อมูลอาจจะเต็ม หรือข้อมูลไม่ได้รับการจัดให้เป็นระเบียบ (Fragmentation) 
วิธีแก้ปัญหาคอมฯ ช้าแบบง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง
ความร้อนสูงเกิน
สำหรับข้อนี้เป็นปัญหาของ hardware ล่ะ ถ้าอุปกรณ์ต่างๆ คลุกฝุ่นหรืออยู่ใกล้กับความร้อนจากภายนอก มันมีความเสี่ยงที่จะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้
แล้วเราควรจะทำยังไงล่ะ?
ปิดโปรแกรม startup ไม่จำเป็นที่ดึงให้เครื่องช้าลง
เปิด task manager ขึ้นมา (ctrl+alt+delete) คลิกเมนู startup พิจารณาโปรแกรมต่างๆ ว่าอันไหนเราไม่ได้ใช้ หรือเห็นว่ามันไม่จำเป็นต้องเปิดอัติโนมัติทุกครั้งเมื่อเปิดเครื่อง ให้คลิกขวาและเลือกเป็น disable ไปจะดีกว่า
อัพเดท driver เก่าๆ
โดยปกติจะหาโหลด driver ได้จาก website ของบริษัทยี่ห้ออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสามารถ search ดูได้เลย 
Defrag และทำความสะอาดไฟล์ใน PC
การทำ Defrag ฮาร์ดดิสก์หรือ Disk Defragmenter คือการจัดเรียงข้อมูลของไฟล์ต่างๆ ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ให้เป็นระบบ การติดตั้ง ถอนติดตั้ง คัดลอกหรือย้ายไฟล์ต่างๆ ยิ่งนานวันจะทำให้ data blocks ที่เก็บอยู่ใน drive ของ PC ไม่เป็นระเบียบ ยิ่งมันกระจัดกระจาย เวลาเราจะเปิดไฟล์หรือแฟ้มไหน เครื่องก็จะใช้เวลาในการเปิดใช้งานนานยิ่งขึ้น วิธีแก้ไขเบื้องต้นทำได้โดยการคลิก start > find และพิมพ์ว่า defrag กด enter แล้วเลือกกด optimize ให้ครบทุกไดร์ฟที่ปรากฏ สิ่งที่จะได้รับจากการ Defrag คือความเร็วในการอ่านข้อมูลของไฟล์นั้น ทำให้มีการอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น เราขอแนะนำให้จัดการกับ temporary files ทั้งหลายด้วย มันคือไฟล์ที่หลงเหลือจากการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วเราไม่สามารถมองเห็นได้ ทางจัดการที่ง่ายที่สุดคือใช้โปรแกรมจำพวกโปรแกรมสแกนไรรัส โปรแกรมลบ ตรวจจับไวรัส มัลแวร์ ที่จะช่วยสแกนไฟล์ที่มองไม่เห็นเหล่านี้ รวมถึงไฟล์อื่นๆ ที่มีผลทำให้เครื่องช้าลงอีกด้วย ก็จะทำให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำความสะอาดเครื่อง
ให้ลองฟังเสียงพัดลมของ PC ดูว่าดังจนเหมือนเครื่องดูดฝุ่นหรือเปล่า? หรือเอามือไปจับแล้วร้อนจนผิดปกติไหม หากเป็นดังที่กล่าวมาข้างต้นให้ทำการปิดเครื่อง ถอดปลั๊ก เปิดเคสแล้วทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะอยู่ด้านในออก รวมถึงพัดลมด้วยที่มักจะมีฝุ่นจับหนา แต่ไม่ใช่ว่าทำเพียงครั้งเดียวแล้วจะจบ ควรหมั่นทำความสะอาดเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เราก็จะได้เครื่องที่เร็วกลับมาใช้งานได้ดังเดิม 

 ที่มา : https://news.thaiware.com/11072.html

อัพเดตคลังความรู้เกี่ยวกับ Adobe กับ MAKE IT Local Community Networking Event



 เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาทาง Adobe ได้เชิญไทยแวร์ ไปเข้าร่วมงาน "MAKE IT Local Community Networking Event (Thailand)" ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยภายในงานผู้เข้าร่วม ได้พบสุดยอดอาร์ทติสชื่อดังระดับโลก มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ และ อัพเดตข้อมูล Adobe Creative Cloud เวอร์ชั่นล่าสุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Design, Web Apps, VDO tools, Photo, Creative Experience ให้แก่ผู้ร่วมงาน โดยจัดขึ้น ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อัพเดตคลังความรู้เกี่ยวกับ Adobe กับ MAKE IT Local Community Networking Event
ภายในงาน มีบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง พร้อมกับได้พบกับสุดยอดอาร์ทติสชื่อดังระดับโลก อย่าง Paul Burnett แห่งวงการครีเอทีฟ, Julieanne Kost นักแต่งภาพระดับโลก นอกจากสองท่านนี้แล้ว ยังมี คุณภาณุพงษ์ ทินกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อวีดีโอ และ คุณวันชนะ อินทรสมบัติ ผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเซปอาร์ต จากประเทศไทย มาร่วพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ อัพเดตข้อมูลต่างๆ พร้อมกับแนะนำเทคนิคการใช้งาน Adobe Creative Cloud ให้แก่ผู้ร่วมงาน โดยหัวข้อหลักๆ ที่พูดในงานคือ
  • แนะนำฟีเจอร์ใหม่ของ Adobe Stock เบื้องต้น
  • แนะนำเทคนิคการค้นหาจากรูปภาพ, ค้นหาจากรูปสเก็ตช์ และการระบุตำแหน่งของรูปที่ต้องการค้นหา บน Adobe Stock
  • แนะนำโปรแกรม Adobe Character Animator เบื้องต้น
  • แนะนำ ฟีเจอร์ Liquify ที่เพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้ปรับแต่งตำแหน่งของใบหน้าได้ เช่น ตา, หน้าผาก และ ปาก ฯลฯ บน Adobe Photoshop
  • แนะนำเหตุผลสำคัญ ที่ต้องตกแต่งภาพให้ดี
  • แนะนำเทคนิคการใช้ Lightroom ร่วมกับ Photoshop เพื่อใช้แต่งภาพ
  • แนะนำเทคนิคการใช้แอพฯ Lightroom บนมือถือสมาร์ทโฟน ที่ใช้ตกแต่งภาพ และบันทึกนามสกุลของรูปภาพต่างๆ ให้เหมือนกับไฟล์บนกล้องดิจิทัล
  • แชร์ประสบการณ์ต่างๆ ไปกับ คุณภาณุพงษ์ ทินกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อวีดีโอของประเทศไทย
  • แชร์ประสบการณ์ต่างๆ ไปกับ คุณวันชนะ อินทรสมบัติ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Concept Arts ของประเทศไทย 
สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่พลาดงานนี้ไป ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะว่าทาง Adobe จะจัดงานนี้ขึ้นอีกครั้งในปีหน้า แต่จะเชิญกูรูท่านใดมานั้น ต้องรอดูกัน

อัพเดตคลังความรู้เกี่ยวกับ Adobe กับ MAKE IT Local Community Networking Event

ที่มา : https://news.thaiware.com/11111.html

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เกมเมอร์เตรียมเฮ แอพฯ Discord เริ่มทดสอบระบบวีดีโอคอล และแบ่งปันหน้าจอแล้ว

เกมเมอร์เตรียมเฮ แอพฯ Discord เริ่มทดสอบระบบวีดีโอคอล และแบ่งปันหน้าจอแล้ว

 หากคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์แล้วล่ะก็ คงจะรู้จักกับแอพฯ ที่มีชื่อว่า Discord กันอย่างแน่นอน มันเป็นโปรแกรมแชทที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ มีจุดเด่นตรงที่สามารถแสดงข้อมูลว่าผู้ใช้งานที่ออนไลน์กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ สามารถสร้างกลุ่มสนทนาด้วยเสียงหรือข้อความได้ ที่สำคัญมันยังเป็นโปรแกรมฟรีอีกด้วย แถมคุณภาพเสียงของโปรแกรมก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่โปรแกรม Discord จะได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์เป็นอย่างมากภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากเปิดตัว
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาผู้พัฒนา Discord ได้เปิดให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินเพิ่อเพิ่มลูกเล่นได้ในราคา $5/เดือน (ประมาณ 170 บาท) โดยผู้ที่จ่ายเงินจะสามารถตั้งรูปโปรไฟล์เป็นภาพเคลื่อนไหวได้, มีอีโมจิเพิ่ม และอัพโหลดไฟล์ได้ใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อเดือนก่อนได้มีนักลงทุนได้ระดมเงินเพิ่มให้อีก $50 ล้านดอลลาร์ ด้วยเงินทุนจำนวนนี้ทำให้ Discord สามารถเริ่มทดสอบลูกเล่นที่มีคนรีเควสเป็นจำนวนมาก นั่นก็คือ วิดีโอคอล และการแบ่งปันหน้าจอ
เกมเมอร์เตรียมเฮ แอพฯ Discord เริ่มทดสอบระบบวีดีโอคอล และแบ่งปันหน้าจอแล้ว

 สำหรับการใช้งานวิดีโอคอล และการแบ่งปันหน้าจอ เบื้องต้นจะเป็นการสนทนาแบบ 1:1 ก่อน หรือหากเป็นแบบกลุ่มจะสร้างได้สูงสุดไม่เกิน 10 คน (ทางทีมผู้พัฒนาแนะนำว่าควรไม่เกิน 5 คน เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด) การสลัับภาพจากกล้องของเว็บแคมและหน้าจอสามารถทำได้ตลอดเวลา หรือจะให้แสดงผลภาพพร้อมกันแบบ Picture-in-Picture ก็ได้

คุณสมบัติใหม่นี้คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ทุกคน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ก็อดใจรอกันไปก่อนจนกว่าผู้พัฒนาจะทดสอบระบบเสร็จ เชื่อว่าอีกไม่นานนี้อย่างแน่นอน